ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 15-22 ปี
1. หล่อ
2. มีเสน่ห์
3. ฐานะการเงินดี
4. เป็นนักฟังที่ดี
5. ฉลาด
6. หุ่นดี
7. แต่งตัวดี
8. ละเอียดอ่อน ประณีต พิถีพิถัน
9. มีความกระตือรือร้น
10. เป็นคู่รักโรแมนติก เป็นชายในฝัน
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 23-42 ปี
1. หน้าตาดูไม่อุบาทว์ ถึงหัวล้านก็ไม่เป็นไร
2. อย่าขับรถออกไปก่อนที่เราจะเข้าไปนั่งในรถ
3. รู้จักผงกหัวรับในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เราพูดบ้างก็พอ
4. มีหน้าที่การงานดีพอที่จะพาเราไปเลี้ยงข้าวในฟาสต์ฟูดใกล้ ๆได้
5. รู้จักจำเรื่องตลกๆ มาเล่าบ้าง
6. สุขภาพแข็งแรงพอที่จะเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้
7. มักสวมเสื้อผ้าปกคลุมพุงไว้มิดชิด
8. ไม่พูดถึงรูปลักษณะที่ร่วงโรยของวัยให้เราสะเทือนใจ พิถีพิถัน
9. ออกจากห้องน้ำโดยดึงฝารองชักโครกลงด้วย
10. รู้จักโกนหนวดโกนเคราตัวเองบ้างสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 43-52 ปี
1. รู้จักดูแลจมูกตัวเอง อย่าให้ยาวยื่นออกมามากนัก
2. อย่าเรอ อย่าผายลม หรือเกาตูดในที่สาธารณะ
3. อย่ายืมเงินชาวบ้านบ่อยนัก
4. อย่าสัปหงกในขณะที่เราโกรธ
5. อย่าเล่าเรื่องโจ๊กซ้ำๆ ให้เล่าฟังถี่นัก
6. อย่าขี้เกียจอาบน้ำมากนัก
7. รู้จักสวมถุงเท้าสีเดียวกันทั้งสองข้างบ้าง
8. ทานอาหารเย็นหน้าจอทีวีด้วยกันได้
9. จำชื่อเราได้ในวาระที่เหมาะสม
10. รู้จักไปตัดผม โกนหนวดเองโดยที่เราไม่ต้องบอก
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 53-62 ปี
1. อย่าตะคอกเด็กๆ
2. จำได้ว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน
3. ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยนัก
4. เวลาตื่นนอนช่วยกรนเบาๆ หน่อย เวลาหลับก็กรนดังอยู่แล้ว ให้เราได้พักหูบ้าง
5. พอจำวันเดือนปีได้
6. รูปร่างพอดูได้ ถ้าเขายืนเองได้
7. ยังสวมเสื้อผ้าบางชิ้นได้
8. ชอบอาหารอ่อน
9. พอจำได้ว่าวางฟันปลอมตัวเองไว้ที่ไหน
10. จำได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เช่น กำลังหัวเราะเรื่องอะไร
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 15-22 ปี
1. หล่อ
2. มีเสน่ห์
3. ฐานะการเงินดี
4. เป็นนักฟังที่ดี
5. ฉลาด
6. หุ่นดี
7. แต่งตัวดี
8. ละเอียดอ่อน ประณีต พิถีพิถัน
9. มีความกระตือรือร้น
10. เป็นคู่รักโรแมนติก เป็นชายในฝัน
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 23-42 ปี
1. หน้าตาดูไม่อุบาทว์ ถึงหัวล้านก็ไม่เป็นไร
2. อย่าขับรถออกไปก่อนที่เราจะเข้าไปนั่งในรถ
3. รู้จักผงกหัวรับในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่เราพูดบ้างก็พอ
4. มีหน้าที่การงานดีพอที่จะพาเราไปเลี้ยงข้าวในฟาสต์ฟูดใกล้ ๆได้
5. รู้จักจำเรื่องตลกๆ มาเล่าบ้าง
6. สุขภาพแข็งแรงพอที่จะเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้
7. มักสวมเสื้อผ้าปกคลุมพุงไว้มิดชิด
8. ไม่พูดถึงรูปลักษณะที่ร่วงโรยของวัยให้เราสะเทือนใจ พิถีพิถัน
9. ออกจากห้องน้ำโดยดึงฝารองชักโครกลงด้วย
10. รู้จักโกนหนวดโกนเคราตัวเองบ้างสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 43-52 ปี
1. รู้จักดูแลจมูกตัวเอง อย่าให้ยาวยื่นออกมามากนัก
2. อย่าเรอ อย่าผายลม หรือเกาตูดในที่สาธารณะ
3. อย่ายืมเงินชาวบ้านบ่อยนัก
4. อย่าสัปหงกในขณะที่เราโกรธ
5. อย่าเล่าเรื่องโจ๊กซ้ำๆ ให้เล่าฟังถี่นัก
6. อย่าขี้เกียจอาบน้ำมากนัก
7. รู้จักสวมถุงเท้าสีเดียวกันทั้งสองข้างบ้าง
8. ทานอาหารเย็นหน้าจอทีวีด้วยกันได้
9. จำชื่อเราได้ในวาระที่เหมาะสม
10. รู้จักไปตัดผม โกนหนวดเองโดยที่เราไม่ต้องบอก
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 53-62 ปี
1. อย่าตะคอกเด็กๆ
2. จำได้ว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน
3. ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยนัก
4. เวลาตื่นนอนช่วยกรนเบาๆ หน่อย เวลาหลับก็กรนดังอยู่แล้ว ให้เราได้พักหูบ้าง
5. พอจำวันเดือนปีได้
6. รูปร่างพอดูได้ ถ้าเขายืนเองได้
7. ยังสวมเสื้อผ้าบางชิ้นได้
8. ชอบอาหารอ่อน
9. พอจำได้ว่าวางฟันปลอมตัวเองไว้ที่ไหน
10. จำได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ เช่น กำลังหัวเราะเรื่องอะไร
ผู้ชายในฝันสำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 72 ปี
1. ยังหายใจอยู่ก็พอ
ที่มีอายุ 72 ปี
1. ยังหายใจอยู่ก็พอ
@ Anji @

is me
15.11.11
10 เหตุผลของการกด “LIKE”
10 เหตุผลของการกด “LIKE”
- 10 เหตุผลของการกด “LIKE” -
1) ข้อความ มันโดนจัย
2) ไม่รู้จะเม้นท์อะไร กดไลท์มันง่ายดี
3) คนว่าง …. ไม่มีงานทำ
4) แอบแชร์ ก็เลยกด ต้องกด ไลท์ ( ซะหน่อย )
5) ไลท์ ไปตามกระแส
6) คนโพสต์ หน้าตา มันโดน!!
7) ก็แค่อยากให้ ไลท์กลับ
ให้รู้ว่า คนๆนี้ ยังไม่จากไปไหน
9) อยากคุยด้วย แต่ไม่กล้า
10) ตกหลุมรัก คนโพส ( เข้าอย่างจัง )
(สถานะบาดจิต ความคิดบาดใจ)
1) ข้อความ มันโดนจัย
2) ไม่รู้จะเม้นท์อะไร กดไลท์มันง่ายดี
3) คนว่าง …. ไม่มีงานทำ
4) แอบแชร์ ก็เลยกด ต้องกด ไลท์ ( ซะหน่อย )
5) ไลท์ ไปตามกระแส
6) คนโพสต์ หน้าตา มันโดน!!
7) ก็แค่อยากให้ ไลท์กลับ

9) อยากคุยด้วย แต่ไม่กล้า
10) ตกหลุมรัก คนโพส ( เข้าอย่างจัง )
(สถานะบาดจิต ความคิดบาดใจ)
7.11.11
คำแนะนำสำหรับอาหารที่ดีและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในยามน้ำท่วม
คำแนะนำสำหรับอาหารที่ดีและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในยามน้ำท่วม
• น้ำดื่มสะอาดร่างกายควรได้รับน้ำในแต่ละวันเฉลี่ยประมาณ 2-3 ลิตรหรือ 8 แก้วต่อวัน
• ซีเรียล ธัญพืชอบแห้งหรือข้าวอบแห้งเช่น ซีเรียลที่นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าควรใส่รวมกับนมหรือนมถั่วเหลืองหรือ หากใส่ผลไม้เพิ่มก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้น ซีเรียลควรที่จะเป็นชนิดโฮลเกรน น้ำตาลและไขมันต่ำ ข้าวอบแห้งที่สามารถหาได้ง่าย ๆ ในบ้านเรา ได้แก่ข้าวตังหน้าธัญพืช ลูกเดือยอบกรอบ ข้าวพอง ข้าวแต๋น
• เมล็ดธัญพืชพร้อมรับประทาน เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วแดงกระป๋อง หรือจะเป็นธัญพืชอัดแท่งก็ได้ อาหารในกลุ่มนี้จะให้พลังงานสูงและทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน
• ถั่วเปลือกแข็งเช่น อัลมอนด์ แมกคาเดเมีย พิสตาชิโอ วอลนัท พีแคน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง อาหารในกลุ่มนี้ให้คุณค่าทางอาหารสูงเนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัว โปรตีน ใยอาหาร และสารพฤกษาเคมีที่ช่วยขับสารอนุมูลอิสระที่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ลดระดับไขมันในเลือดและควบคุมระดับในตาลในเลือดให้คงที่ซึ่งดีต่อผู้ป่วยโรค เบาหวาน
• เส้นหมี่แห้งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาหารประเภทข้าวแป้งที่สะดวกในนำมาปรุงประกอบอาหาร ในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าและมีเพียงเตาถ่านหรือเตาแก๊ส เส้นหมี่จะช่วยเราประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่มีอยู่จำกัด แค่นำเส้นหมี่มาแช่น้ำก็สามารถนำมาผัด หรือต้มก็ได้ตามชอบ
• ข้าวเหนียวเมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างข้าวสวยกับข้าวเหนียว ข้าวเหนียวจะสามารถทำให้อิ่มได้นานกว่าและมีอายุการเก็บรักษาได้นาน ข้าวสวยปกติจะเก็บได้ 4-5 ชั่วโมงก็จะเริ่มบูด ในขณะที่ข้าวเหนียวเก็บได้ประมาณ 1 วันและเหมาะกับการนำเป็นอาหารกล่องไปแจกให้กับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยแยก ข้าวเหนียวกับตัวกับข้าวคนละถุงกันก็จะทำให้อาหารเก็บได้นานขึ้นอีก
• เนื้อสัตว์แห้งหรือกระป๋องเช่นปลากรอบ หมูฝอย เนื้อฝอยโปรตีนเกษตรพร้อมรับประทานแผ่นแห้ง รวมถึงสาหร่ายอบแห้ง เหล่านี้เป็นแหล่งของโปรตีนที่ดี
• น้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง
• ขนมปังกรอบแห้ง จะ เก็บได้นานกว่าขนมปังสดเนื่องจากอายุการเก็บของขนมปังโดยทั่วไปอยู่ประมาณ 3-7 วัน ก็จะเกิดเชื้อราขึ้นแม้ว่าจะตัดบริเวณที่เป็นเชื้อราทิ้งไปแล้วก็ไม่ควรที่ จะรับประทานเพราะเชื้อราส่วนใหญ่จะแพร่กระจายไปทั่วแม้ว่าจะมองไม่เห็นด้วย ตาเปล่า
• น้ำผลไม้ 100% หรือน้ำสมุนไพรกระป๋องเช่นน้ำส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำแอปเปิ้ล น้ำองุ่น ดื่มแทนน้ำหรือแทนผลไม้สด
• นม นมถั่วเหลือง หรือผลิตภัณฑ์ธัญพืชพร้อมดื่มบรรจุกล่อง ในภาวะที่น้ำท่วมและอาหารขาดแคลนการเลือกเครื่องดื่มเช่น นมกล่องอาจเลือกประเภทที่มีไขมันปกติหรือนมที่ให้พลังงานสูงเพราะจะทำให้ อิ่มได้นาน 3-4 ชั่วโมงและให้ของเหลวแก่ร่างกายแทนที่น้ำได้บางส่วน
• น้ำผึ้ง น้ำหวานหรือลูกอมเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ควรเก็บกักตุนไว้บ้างเพราะพื้นฐานของ ร่างกายจะต้องการน้ำตาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมอง หากไม่มีอาหารอย่างอื่นรับประทานได้แล้วและไม่มีแรงหรือรู้สึกจะเป็นลม ให้รับประทานน้ำผึ้ง น้ำหวาน หรือลูกอมก็จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคเบาหวานควรมีลูกอมหรือน้ำหวานแบ่งใส่ขวดเล็กๆ เอาไว้ใช้เมื่ออยู่ในภาวะขาดน้ำตาล
• ช็อกโกแลตแบบดำหรือ Dark Chocolate ก็เป็นสิ่งที่ควรมีติดบ้านไว้บ้าง เนื่องจากในโกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระสารคาเฟอี นเล็กน้อยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และมีสารที่ช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินทำให้มีอารมณ์ดีและลดความ เครียดลงได้
• ถั่วเขียวดิบ เป็นโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตชั้นดีสามารถน้ำมาต้มกับน้ำตาลเพื่อให้พลังงานทำ ให้อิ่มได้นานหรือจะใช้ถั่วเขียวมาเพาะเป็นถั่วงอกก็ได้หากไม่มีผักจะรับ ประทาน
• ผักที่เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น เช่นกระเทียม หัวหอม แครอท ฟักเขียว ฟักทองกะหล่ำปลีมันฝรั่งหรือจะเป็นผักอบแห้ง เช่น มะเขือเทศแห้ง หรือผักที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งแบบ Freeze - Dry ผักจะมีลักษณะแห้งและกรอบ เช่น ถั่วฝักยาว แครอท บล็อกโคลี่ กระเจี๊ยบ
• ผลไม้ที่เก็บได้นาน เช่น กล้วย(เลือกแบบที่ยังเขียวอยู่จะสามารถเก็บได้ 1 อาทิตย์) ส้มแอปเปิ้ล หรือจะเป็นผลไม้แห้ง เช่น ลูกพรุน ลูกเกด ฝรั่งอบแห้ง มะม่วงกวน มะม่วงอบแห้งมะขามแห้งเป็นต้น
• น้ำพริกแห้งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนำมาคลุกกับข้าวเพื่อเพิ่มรสชาติและได้ประโยชน์จากพริกที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และมีวิตามินซี
• สมุนไพรตากแห้ง หรือ สมุนไพรป่นในขวดที่วางขายกันอยู่ เช่น พริกไทย ขมิ้น ใบมะกรูด ตะไคร้ผง ข่าผง เป็นต้น หากจะนำมาปรุงประกอบอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติก็ทำได้ง่ายและยังเพิ่มคุณค่าให้ กับอาหารอีกด้วย
• น้ำดื่มสะอาดร่างกายควรได้รับน้ำในแต่ละวันเฉลี่ยประมาณ 2-3 ลิตรหรือ 8 แก้วต่อวัน
• ซีเรียล ธัญพืชอบแห้งหรือข้าวอบแห้งเช่น ซีเรียลที่นิยมรับประทานเป็นอาหารเช้าควรใส่รวมกับนมหรือนมถั่วเหลืองหรือ หากใส่ผลไม้เพิ่มก็ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้น ซีเรียลควรที่จะเป็นชนิดโฮลเกรน น้ำตาลและไขมันต่ำ ข้าวอบแห้งที่สามารถหาได้ง่าย ๆ ในบ้านเรา ได้แก่ข้าวตังหน้าธัญพืช ลูกเดือยอบกรอบ ข้าวพอง ข้าวแต๋น
• เมล็ดธัญพืชพร้อมรับประทาน เช่น เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ถั่วแดงกระป๋อง หรือจะเป็นธัญพืชอัดแท่งก็ได้ อาหารในกลุ่มนี้จะให้พลังงานสูงและทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน
• ถั่วเปลือกแข็งเช่น อัลมอนด์ แมกคาเดเมีย พิสตาชิโอ วอลนัท พีแคน เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง อาหารในกลุ่มนี้ให้คุณค่าทางอาหารสูงเนื่องจากมีไขมันไม่อิ่มตัว โปรตีน ใยอาหาร และสารพฤกษาเคมีที่ช่วยขับสารอนุมูลอิสระที่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอ ลดระดับไขมันในเลือดและควบคุมระดับในตาลในเลือดให้คงที่ซึ่งดีต่อผู้ป่วยโรค เบาหวาน
• เส้นหมี่แห้งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของอาหารประเภทข้าวแป้งที่สะดวกในนำมาปรุงประกอบอาหาร ในกรณีที่ไม่มีไฟฟ้าและมีเพียงเตาถ่านหรือเตาแก๊ส เส้นหมี่จะช่วยเราประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงที่มีอยู่จำกัด แค่นำเส้นหมี่มาแช่น้ำก็สามารถนำมาผัด หรือต้มก็ได้ตามชอบ
• ข้าวเหนียวเมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างข้าวสวยกับข้าวเหนียว ข้าวเหนียวจะสามารถทำให้อิ่มได้นานกว่าและมีอายุการเก็บรักษาได้นาน ข้าวสวยปกติจะเก็บได้ 4-5 ชั่วโมงก็จะเริ่มบูด ในขณะที่ข้าวเหนียวเก็บได้ประมาณ 1 วันและเหมาะกับการนำเป็นอาหารกล่องไปแจกให้กับผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมโดยแยก ข้าวเหนียวกับตัวกับข้าวคนละถุงกันก็จะทำให้อาหารเก็บได้นานขึ้นอีก
• เนื้อสัตว์แห้งหรือกระป๋องเช่นปลากรอบ หมูฝอย เนื้อฝอยโปรตีนเกษตรพร้อมรับประทานแผ่นแห้ง รวมถึงสาหร่ายอบแห้ง เหล่านี้เป็นแหล่งของโปรตีนที่ดี
• น้ำมันพืช เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันถั่วเหลือง
• ขนมปังกรอบแห้ง จะ เก็บได้นานกว่าขนมปังสดเนื่องจากอายุการเก็บของขนมปังโดยทั่วไปอยู่ประมาณ 3-7 วัน ก็จะเกิดเชื้อราขึ้นแม้ว่าจะตัดบริเวณที่เป็นเชื้อราทิ้งไปแล้วก็ไม่ควรที่ จะรับประทานเพราะเชื้อราส่วนใหญ่จะแพร่กระจายไปทั่วแม้ว่าจะมองไม่เห็นด้วย ตาเปล่า
• น้ำผลไม้ 100% หรือน้ำสมุนไพรกระป๋องเช่นน้ำส้ม น้ำมะเขือเทศ น้ำแอปเปิ้ล น้ำองุ่น ดื่มแทนน้ำหรือแทนผลไม้สด
• นม นมถั่วเหลือง หรือผลิตภัณฑ์ธัญพืชพร้อมดื่มบรรจุกล่อง ในภาวะที่น้ำท่วมและอาหารขาดแคลนการเลือกเครื่องดื่มเช่น นมกล่องอาจเลือกประเภทที่มีไขมันปกติหรือนมที่ให้พลังงานสูงเพราะจะทำให้ อิ่มได้นาน 3-4 ชั่วโมงและให้ของเหลวแก่ร่างกายแทนที่น้ำได้บางส่วน
• น้ำผึ้ง น้ำหวานหรือลูกอมเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ควรเก็บกักตุนไว้บ้างเพราะพื้นฐานของ ร่างกายจะต้องการน้ำตาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งสมอง หากไม่มีอาหารอย่างอื่นรับประทานได้แล้วและไม่มีแรงหรือรู้สึกจะเป็นลม ให้รับประทานน้ำผึ้ง น้ำหวาน หรือลูกอมก็จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยโรคเบาหวานควรมีลูกอมหรือน้ำหวานแบ่งใส่ขวดเล็กๆ เอาไว้ใช้เมื่ออยู่ในภาวะขาดน้ำตาล
• ช็อกโกแลตแบบดำหรือ Dark Chocolate ก็เป็นสิ่งที่ควรมีติดบ้านไว้บ้าง เนื่องจากในโกโก้มีสารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระสารคาเฟอี นเล็กน้อยทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า และมีสารที่ช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินทำให้มีอารมณ์ดีและลดความ เครียดลงได้
• ถั่วเขียวดิบ เป็นโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตชั้นดีสามารถน้ำมาต้มกับน้ำตาลเพื่อให้พลังงานทำ ให้อิ่มได้นานหรือจะใช้ถั่วเขียวมาเพาะเป็นถั่วงอกก็ได้หากไม่มีผักจะรับ ประทาน
• ผักที่เก็บได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็น เช่นกระเทียม หัวหอม แครอท ฟักเขียว ฟักทองกะหล่ำปลีมันฝรั่งหรือจะเป็นผักอบแห้ง เช่น มะเขือเทศแห้ง หรือผักที่ผ่านกระบวนการทำให้แห้งแบบ Freeze - Dry ผักจะมีลักษณะแห้งและกรอบ เช่น ถั่วฝักยาว แครอท บล็อกโคลี่ กระเจี๊ยบ
• ผลไม้ที่เก็บได้นาน เช่น กล้วย(เลือกแบบที่ยังเขียวอยู่จะสามารถเก็บได้ 1 อาทิตย์) ส้มแอปเปิ้ล หรือจะเป็นผลไม้แห้ง เช่น ลูกพรุน ลูกเกด ฝรั่งอบแห้ง มะม่วงกวน มะม่วงอบแห้งมะขามแห้งเป็นต้น
• น้ำพริกแห้งก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนำมาคลุกกับข้าวเพื่อเพิ่มรสชาติและได้ประโยชน์จากพริกที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น และมีวิตามินซี
• สมุนไพรตากแห้ง หรือ สมุนไพรป่นในขวดที่วางขายกันอยู่ เช่น พริกไทย ขมิ้น ใบมะกรูด ตะไคร้ผง ข่าผง เป็นต้น หากจะนำมาปรุงประกอบอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติก็ทำได้ง่ายและยังเพิ่มคุณค่าให้ กับอาหารอีกด้วย
Subscribe to:
Posts (Atom)