@ Anji @

@ Anji @
is me

1.7.11

เหงา


เหงา (ใยไหม)

"เหงา...เพราะไม่มีใคร ไม่ทรมานเท่ากับใคร แต่หัวใจเราไม่ต้องการ"

คง จะมีบ้าง ในบางช่วงของชีวิต ที่เรารู้สึกว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่กว่าที่มันควรจะเป็น การอยู่คนเดียว ทำให้หัวใจเป็นทุกข์ และร่ำร้องอยากมีใครสักคน ในนาทีนี้...สิ่งที่เกลียดที่สุดก็คือ ความรู้สึก "เหงา" ในช่วงที่ยังไม่มีใคร เวลาเห็นคนนั้นคนไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว เราก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเรามีแฟนนะ เราคงจะไม่ต้องทำอะไรคนเดียวแบบนี้ หัวใจเราคงรู้สึกอบอุ่น และไม่ต้องทนเหงาอย่างที่กำลังเป็นอยู่

ในช่วงชีวิตโสด บ่อยไปที่ฉันต้องดูหนังคนเดียว กินข้าวคนเดียว แม้พยายามจะไม่คิดอะไร แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้เหมือนกัน ทั้งที่เวลาใคร ๆ บอกว่าเหงา ฉันก็พร้อมจะไปอยู่เคียงข้างเสมอ แต่ทำไมพอเราเหงาบ้าง ถึงมองไปไม่เห็นใครสักคน รายชื่อเพื่อนในมือถือมีมากมาย แต่ไม่รู้จะโทร.หาใคร พออยากมีแฟนมากเข้า ก็เริ่มคิดหาทางจะไปหาแฟนตามเว็บหาคู่ เริ่มอยากลองดันทุรังหาคนมาแก้เหงาสักคน จนกลายเป็นฟุ้งซ่านเข้าไปใหญ่

แต่ จากประสบการณ์ของตัวเอง ฉันได้เรียนรู้ความจริงมาอย่างหนึ่งว่า แม้ว่าการอยู่โดยไม่มีแฟน จะทำให้เราเหงาง่ายกว่าปกติ แต่การเหงาเพราะไม่มีใคร...ก็ทรมานเท่ากับการมีใคร แต่หัวใจเราไม่ได้ต้องการ เพราะฉะนั้น ต่อให้วันนี้เราไม่สามารถอัพสเตตัสในเฟซบุ๊กได้ว่า กำลังคบหาดูใจกับใคร ก็ไม่ได้เป็นหลักประกันได้เลยว่า นับจากนี้เราจะไม่ต้องพิมพ์ข้อความบ่นว่า "เหงา" ลงบนเฟซบุ๊กอีกแล้ว เพราะบางทีเราอาจต้องพิมพ์คำนั้นบ่อยกว่าเดิมด้วยซ้ำ

ฉัน มีรถคนแรกในชีวิตเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่จะตัดใจซื้อรถ ฉันคิดเพียงแค่ว่า ถ้ามีรถฉันคงสบายขึ้นเวลาไปไหนมาไหน คิดว่าจากนี้คงไม่ต้องกังวล เวลากลับบ้านดึก ๆ อีกต่อไปแล้ว แต่พอมีรถเข้าจริง ๆ ฉันก็ได้เรียนรู้เพิ่มมาว่า เวลาไปไหนมาไหน ฉันสบายขึ้นก็จริง เวลากลับบ้านดึก ๆ ก็ไม่ต้องกังวลแล้วจริง ๆ

แต่ฉันมีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้น ในการต้องหาเงินมาจ่ายค่าน้ำมัน ต้องใส่ใจดูแลรถ คอยเปลี่ยนอะไหล่ คอยเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง จนบางทีก็ท้อ เพราะต้องควักกระเป๋าทีเป็นพัน ๆ เป็นหมื่น ๆ บาท แต่พอฉันเอาไปบ่นให้พี่คนหนึ่งฟัง พี่คนนั้นกลับบอกฉันมาว่า...ถูกแล้ว ที่แกต้องดูแลรถให้ดี เพราะรถคนนี้แหละที่ดูแลแกให้สบายขึ้น เวลาไปไหนต่อไหน

จริงอย่างที่พี่ฉันบอกนะ...บ่อยครั้งที่เราอยากได้ อยากมีอะไรสักอย่าง โดยคิดถึงแต่สิ่งดี ๆ ที่เราจะได้มา และลืมมองไปว่า เราต้องให้อะไรไปบ้าง เช่นเดียวกับความรัก หลายครั้งเราอาจคิดแค่ว่า ถ้าหากมีคนรักเราจะได้คนมาดูแล มาแก้เหงา มาอยู่ใกล้ ๆ มาเทคแคร์และคอยโทร.หา แต่เราลืมคิดไปว่า อีกฝ่ายก็ต้องการการดูแลเทคแคร์จากเราไม่น้อยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ที่ทำให้เราอยากมีแฟน สิ่งที่สำคัญที่สุดและจะขาดไม่ได้เด็ดขาดก็คือ "ความรัก" และ "ความเอาใจใส่"

ก่อนที่ จะตกลงคบใครเป็นแฟน ลองถามตัวเองดูก่อนดีไหมว่า เรารักเขามากพอที่จะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่เขาหรือเปล่า เราพร้อมที่จะดูแลเขา...เหมือนที่เราอยากให้เขาดูแลเราไหม

การ ที่เรายังไม่มีใคร อาจจะทำให้เราทรมานกับความเหงา แต่ถ้าเราเลือกเอาคนที่ไม่ใช่มาเป็นแฟน สิ่งที่เราจะได้มา ก็คือความอึดอัด ทรมาน ที่ต้องดูแลเทคแคร์คนที่เราไม่ได้รัก และสุดท้าย การที่เราต้องอยู่กับคนที่ใจไม่ต้องการ ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการที่เรานั่งอยู่ในงานปาร์ตี้ใหญ่ ๆ ที่มีคนมากมาย แต่ในหัวใจเรากลวง ว่างเปล่า และยังเหงาเหมือนเดิมอยู่ดี

จากหนังสือเรื่อง "การเดินทางของส่วนที่หาย" เจ้า Missing Piece เป็นชิ้นส่วนชิ้นหนึ่ง รูปสามเหลี่ยมเล็ก ๆ ตลอดเวลา เจ้า Missing Piece รอคอยให้มีใครสักคน พามันกลิ้งไปไหนมาไหนได้ แต่ในที่สุดคนเขียนก็บอกว่า...ไม่มีชิ้นส่วนไหนเลยที่เหมาะสมกับเจ้า Missing Piece สิ่งที่เจ้า Missing Piece ควรทำก็คือ พยายามกลิ้งไปให้ได้ด้วยตัวเอง จากชิ้นส่วนเล็ก ๆ รูปสามเหลี่ยม เจ้า Missing Piece ค่อย ๆ ผลักตัวเองให้กลิ้งไปข้างหน้าอย่างยากลำบากไปเรื่อย ๆ จนที่สุดรอยเหลี่ยมของมันก็หายไป เจ้า Missing Piece กลายเป็นก้อนกลม ๆ ที่กลิ้งไปข้างหน้าได้ด้วยตัวของมันเอง และในตอนสุดท้ายมันก็ได้พบกับบิ๊กโอ ชิ้นส่วนรูปทรงกลมที่พร้อมจะกลิ้งเคียงข้างไปกับมันตลอดไป...

ทุกครั้งที่ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้จบ...ฉันมักจะมองดูตัวเองเสมอ เจ้า Missing Piece ทำให้ฉันเข้าใจว่า ไม่ว่าเราจะสุขหรือเศร้าแค่ไหน คนที่จะทำให้เราเข้มแข็ง และเดินไปข้างหน้าได้ ก็มีเพียงตัวเราเอง ที่จะก้าวไปด้วยขาของตัวเองเท่านั้น

เมื่อ ความเหงาเกิดขึ้นที่หัวใจ คนที่จะจัดการให้มันหายไปได้ ก็ควรจะเป็นตัวเราเอง ไม่จำเป็นต้องพยายามหาใครสักคนมาแก้เหงาหรอก เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว...การทำให้หัวใจเข้มแข็งต่อความเหงา อาจจะง่ายกว่าการหลับหูหลับตาหา "ใครสักคนมาแก้เหงา" แต่ไม่ใช่ "ตัวจริง"

No comments:

Post a Comment

Powered By Blogger